#สุขภาพน่ารู้ : หยุดพฤติกรรมทำร้ายสมอง | Thaihealth.or.th

25 December 2013

ขอบคุณภาพประกอบจาก Thaihealth.or.th

สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด แต่บ่อยครั้งเรากลับมีพฤติกรรมที่ทำร้ายสมองอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น นอนน้อย เครียด คิดมาก

สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด แต่บ่อยครั้งเรากลับมีพฤติกรรมที่ทำร้ายสมองอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น นอนน้อย เน้นบริโภคอาหารไขมันสูง คิดมากจนเครียดตลอดเวลา รวมถึงสูดดมสารเคมี โดยเฉพาะกลุ่มที่กำจัดวัชพืชต่อเนื่องเวลานาน ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้สมองเกิดภาวะเสื่อมถอยก่อนเวลาอันควร


รศ.บัณฑิต เจตน์สว่าง ศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า อาการสมองเสื่อมสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะมีพันธุกรรมหรือไม่มีก็ตาม โดยเฉพาะคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพรวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิต และอายุที่เพิ่มขึ้นยิ่งเพิ่มปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้สมองเสื่อมได้เร็วขึ้น

ภาวะสมองเสื่อมสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์และโรคพาร์กินสัน เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทหลายส่วนในสมอง แต่ท้ายที่สุดแล้วทางการแพทย์ก็ยังไม่สามารถสรุปถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสื่อมนั้น และควรรักษาหรือป้องกันแบบไหน เพื่อหยุดความเสื่อมของสมองที่ก่อให้เกิดโรค

ขอบคุณภาพประกอบจาก Thaihealth.or.th


หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันภาวะสมองเสื่อมไม่ให้มากล้ำกรายคือ การดูแลสุขภาพด้วยการปรับไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่การกินอาหาร ให้เลือกกินผัก ผลไม้ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระค่อนข้างสูง และกินอาหารจานหลักให้หลากหลายครบ 5 หมู่ พยายามเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เพราะไม่ได้จำเป็นต่อร่างกายโดยตรง

ทั้งนี้ มีรายงานวิจัยระบุว่า การใช้สารต้านอนุมูลอิสระบางตัวระยะยาว เช่น วิตามินอี หรือเซเลเนียม นอกจากไม่มีผลดีแล้ว อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดก็ได้

ในคนที่ต้องทำงานและสัมผัสกับสารเคมีรวมถึงสูดดม ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายต่อร่างกาย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคระยะยาว และควรหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายประจำทุกปี เพื่อคัดกรองโรคที่อาจเกิดได้นอกเหนือจากโรคสมองเสื่อมอีกด้วย

“การนอนหลับให้เพียงพอ และเกิดประสิทธิผลต่อการป้องกันการเกิดโรค ควรพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง พยายามหากิจกรรมทำคลายความเครียด เพราะยิ่งคิดมาก ยิ่งเครียดมาก อนุมูลอิสระยิ่งผลิตได้มากเป็นเงาตามกัน ทำให้สมองถูกทำร้ายแบบตรงเป้ายิ่งขึ้น” นักวิชาการกล่าวและว่า หากทุกคนดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี รวมถึงออกกำลังกายให้ได้สม่ำเสมอ 3-5 วันต่อสัปดาห์ ไม่เพียงสมองเท่านั้นที่จะอยู่กับร่างกายไปอีกนาน แต่อวัยวะอื่นๆ รวมถึงอายุก็จะยืนยาวแบบปราศจากโรคอีกด้วย

ขอบคุณภาพประกอบจาก Thaihealth.or.th

ปัจจัยเพิ่มสารอนุมูลอิสระ

แม้สมองจะเป็นอวัยวะที่ลึกลับซับซ้อน และฟังดูเป็นเรื่องที่ยากที่จะไขความลับกลไกการทำงานได้ทั้งหมด แต่ทีมวิจัยมหิดลได้ศึกษาในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ใช้สารเสพติดเป็นประจำ ผู้ติดแอลกอฮอล์ ผู้มีความเครียดสะสมเรื้อรัง คนที่ต้องทำงานเป็นกะ คนที่นอนน้อยพักผ่อนไม่เพียงพอ คนที่ต้องทำงานอยู่กับสารเคมีกลุ่มยาฆ่าวัชพืช ทำให้รู้ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นหากทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้ทั้งสิ้น

ผลการศึกษาทางวิชาการพบว่า หากร่างกายคนเราได้รับสารพิษต่อระบบประสาทจากยาฆ่าวัชพืช หรือสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในปริมาณสูง สามารถที่จะเหนี่ยวนำให้มีการสร้างสารอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นในเซลล์ประสาท โดยสารอนุมูลอิสระที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลต่อเนื่องทำให้มีการทำลายโมเลกุลที่สำคัญต่อการทำงานของเซลล์ เช่น โปรตีน ไขมัน และดีเอ็นเอ ทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของเซลล์ตามมาอีกหลายอย่าง” รศ.บัณฑิตกล่าว

นอกจากนี้ ทางการแพทย์ระบบประสาทยังสนใจศึกษาหาความสัมพันธ์ของโรคเบาหวานกับภาวะสมองเสื่อม เบื้องต้นพบว่า ในผู้ป่วยที่ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดไม่ได้ และมีน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ จะส่งผลให้ปริมาณน้ำตาลในสมองก็สูงไปด้วย ส่งผลให้การผลิตสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายทำได้ไม่เต็มที่ จนเกิดสารอนุมูลอิสระมากเกินความต้องการของร่างกายและเข้าไปทำลายเซลล์สมอง

ที่มา : เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment