#สุขภาพน่ารู้ : เคล็ดลับ หลับสบาย | Thaihealth.or.th

19 December 2013

ภาพและบทความจาก http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/healthtips/38111

การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่จะนอนอย่างไรให้หลับได้สบาย วันนี้ อาจารย์ พ.ญ.กนกวรรณ ลิ้มศรีเจริญ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีเคล็ดลับมาแนะนำ


ทุกคนมีโอกาสเกิดอาการนอนไม่หลับขึ้นได้ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของชีวิต พบได้หลายอาการ เช่น หลับยากใช้เวลานานจึงจะหลับ หลับไม่สนิท หลับๆ ตื่นๆ เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วจะรู้สึกไม่สดชื่น ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงานได้ ทั้งนี้เคล็ดลับที่ช่วยให้นอนหลับได้อย่างสุขกายสบายใจมีหลายวิธี เช่น

  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อลดความตึงเครียดทางร่างกายและจิตใจ ช่วยให้หลับสบายขึ้น 
  • การจัดกิจกรรมผ่อนคลายเป็นประจำช่วง 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง เพื่อช่วยให้สมองผ่อนคลายและพร้อมที่จะนอนหลับ 
  • การเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน หากสามารถทำติดต่อกันได้นานประมาณ 1 สัปดาห์ ร่างกายจะเริ่มเกิดความคุ้นเคยกับการนอนหลับเป็นเวลามากขึ้น 
  • สภาพห้องนอนที่จะช่วยให้หลับได้สบาย ควรเป็นห้องที่มืด เงียบสงบ และมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก รวมทั้งปิดอุปกรณ์หรือเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ที่รบกวนการนอนหลับ เพื่อช่วยให้หลับได้สนิทและเกิดการพักผ่อนอย่างแท้จริง 
  • เมื่อเข้านอนนาน 15-30 นาทีแล้วยังไม่หลับ ให้ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วทำกิจกรรมที่ช่วยให้ความเพลิดเพลิน เช่น ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ และกลับมานอนใหม่เมื่อรู้สึกง่วงเท่านั้น ไม่ควรนอนอยู่บนเตียงนานๆ โดยไม่หลับจนถึงเช้า เพราะจะกระตุ้นให้เกิดความเครียดได้ 
  • ควรใช้ที่นอนสำหรับการนอนหลับ ไม่นอนเล่นหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นบนที่นอน เช่น ทำงาน ดูโทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ 
  • ลุกจากที่นอนทันทีเมื่อตื่น การสัมผัสแสงแดดอ่อนตอนเช้าและออกกำลังกายเบาๆ หลังตื่นนอน จะช่วยให้สมองและร่างกายตื่นตัว เพื่อพร้อมรับวันใหม่ที่สดชื่น 
  • ไม่ใช้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน ชา กาแฟ โดยเฉพาะหลังเที่ยงวัน และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีผลต่อระบบประสาทและรบกวนการนอนหลับได้ ส่วนอาหารมื้อก่อนนอนควรเป็นอาหารเบาๆ เช่น นม หรือน้ำผลไม้ ซึ่งจะช่วยให้หลับสบายมากขึ้น 

เคล็ดลับต่างๆ เหล่านี้ ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ามีอาการนอนไม่หลับมากกว่า 1 สัปดาห์ หรือมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน ควรจะมาปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมินและวางแผนการรักษาต่อไป

ข้อมูลจาก : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง โดย นพ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์
แชร์มาจากเพจ Thai Health Promotion Foundation #สาระน่ารู้ #เคล็ดลับหลับสบาย

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment